กรมเจ้าท่าจัดสัมมนาระดับประเทศ เพื่อรองรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ชายหาดยั่งยืนพร้อมเปิดตัวแถลงข่าวโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี ระยะที่ 1 โดยมี นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธี นายวิทยายาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายกริชเพชร ชัยช่วย รองอธิบดีกรมเจ้าท่าด้านปลอดภัย คณะผู้บริหารกรมเจ้าท่า หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมการสัมมนาฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม 2563 ณ โรงแรมสวิส โฮเต็ลกรุงเทพมหานคร

นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยหลังการเปิดสัมมนาฯ ว่า จากความสำเร็จของโครงการเสริมทรายชายหาดพัทยาที่ได้ปรับโฉมชายหาดพัทยาเหนือ บริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี จนถึงชายหาดพัทยาใต้ บริเวณวอล์คกิ้ง สตรีท เป็นระยะทาง 2.8 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นโครงการนำร่องที่ช่วยฟื้นฟู และกระตุ้นการท่องเที่ยวชายหาดพัทยา สร้างรายได้และเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมากจากนักท่องเที่ยว ประชาชน และผู้ประกอบการต่างๆ อย่างมาก

กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรงต่อการพัฒนาการขนส่งทางน้ำ และดูแลรักษาร่องน้ำและชายหาดของประเทศ กรมเจ้าท่าได้เห็นความสำคัญในการพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวให้กลับมามีความสวยงาม รองรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สร้างรายได้และเศรษฐกิจ จึงได้จัดหางบประมาณเพื่อทำการเสริมทรายในพื้นที่ชายหาดจอมเทียนเป็นโครงการที่ 2 ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการท่องเที่ยวและการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถสร้างมาตรการควบคุมผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุดเป็นไปตามมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของสังคมโดยทั่วไป

อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า จากรายงานการศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่อ่าวไทยฝั่งตะวันออก โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พศ.2552 พบว่าปัจจุบันชายหาดจอมเทียนประสบปัญหาการกัดเซาะอย่างรุนแรงและต่อเนื่องเช่นเดียวกับชายหาดพัทยา ส่งผลให้ชายหาดลดขนาดลงไปทุกปี จนเหลือพื้นที่ทรายชายหาดจอมเทียนไม่เพียงพอที่จะรองรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนบนชายหาดได้

ในบางช่วงของชายหาดเมื่อน้ำขึ้น ชายหาดจะจมอยู่ใต้ระดับน้ทะเลทั้งหมด ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวให้มีแนวโน้มลดลงไปในอนาคต หากปล่อยทิ้งไว้ภายในไม่ถึง 10 ปี ชายหาดจอมเทียนจะไม่มีทรายเหลืออยู่ ดังนั้น จึงได้มีนโยบายเร่งด่วน เพื่อทำการเสริมทรายเพื่อป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายหาดเช่นเดียวกับที่ชายหาดพัทยา โดยจะเริ่มงานในระยะที่ 1 เป็นระยะทางรวมทั้งสิ้นกว่า 3.5 กิโลเมตร

โดยกรมเจ้าท่า ได้ว่าจ้างให้ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบทำการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี ระยะที่ 1 ในครั้งนี้ และเริ่มการทำงานตั้งแต่ 29 พฤษภาคม 2563 จนถึง 15 พฤศจิกายน 2565 เป็นระยะเวลา 900 วัน สำหรับแหล่งทรายที่จะใช้เสริมชายหาดจอมเทียน นำมาจากทิศตะวันตกของเกาะรางเกวียน ซึ่งอยู่ห่างจากชายหาดจอมเทียนออกไปประมาณ 15 กิโลเมตร และเป็นแหล่งเดียวกับที่ใช้เสริมทรายชายหาดพัทยามาแล้ว

ซึ่งหลังจากการฟื้นฟูบูรณะชายหาดจอมเทียนเสร็จสิ้น ชายหาดจะมีขนาดความกว้างเฉลี่ยประมาณ 50 เมตร มีความสวยงาม และใช้เป็นพื้นที่สันทนาการได้มากกว่าเดิม ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวมีความคุ้มค่าเงิน 1 บาทที่ลงทุนไปในการเสริมทรายชายหาดจอมเทียนในครั้งนี้จะสร้างเม็ดเงินกลับคืนมาประมาณ 3.20 บาทนับเป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างเม็ดเงินและรายได้ให้กับประเทศยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ 29 ตุลาคม 2563

Tags:

No responses yet

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

Chinese (Simplified)EnglishThai